ประธานาธิบดี (2556–2560) ของ พัก_กึน-ฮเย

การเข้ารับตำแหน่ง

พักเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีลำดับที่ 18 แห่งสาธารณรัฐเกาหลี เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ในตอนเที่ยงคืนพักเข้ารับช่วงต่ออำนาจของประธานาธิบดีทุกอย่าง รวมทั้งสิทธิสูงสุดในการควบคุมกองทัพของสาธารณรัฐเกาลี จาก อี มย็อง-ปัก ประธานาธิดีคนก่อน ในสุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่งของเธอที่อาคารรัฐสภา พักพูดถึงแผนของเธอที่จะเปิดยุคใหม่แห่งความหวังผ่าน "ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ, ความสุขของประชาชน, และการเสริมคุณค่าทางวัฒนธรรม" เธอแสดงออกถึงความหวังในการเน้นย้ำเกี่ยวกับเกาหลีเหนือที่จะยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์และเดินทางไปสู่สันติภาพและการพัฒนาร่วมกัน และประกาศว่าจะก่อตั้งยุคสมัยแห่งความสุขในการรวมชาติที่ประชาชนชาวเกาหลีทั้งหมดจะเพลิดเพลินไปกับความเจริญรุ่งเรืองและเสรีภาพ ตระหนักว่าความฝันของพวกเขาสามารถสร้างได้ผ่านกระบวนการความเชื่อมั่นของคาบสมุทรเกาหลี ในสุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่งของเธอ เธอได้เสนอหลักการแนวทางสี่ประการในการบริหารงานของเธอคือ ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ, ความสุขของประชาชน, และการเสริมคุณค่าทางวัฒนธรรม และสถาปนาการรวมชาติอย่างสันติ[41] พิธีเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีพัก ถือว่าเป็นหนึ่งในงานใหญ่ของประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 70,000 คน ผู้แทนทางการทูตในเกาหลีใต้ เช่นเดียวกับผู้แทนระดับสูงจาก 24 ประเทศทั่วโลก เช่น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย, โทมัส โดนิลอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา, วัง จินพุง ประธานรัฐสภาไต้หวัน และยาสุโอะ ฟุคุดะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมพิธีและแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีพัก[42][43]

ปีแรก (กุมภาพันธ์ 2556– กุมภาพันธ์ 2557)

ปรัชญาการบริหารงาน

เป้าหมายที่ปล่อยออกมาใหม่ในการบริหารงานของประธานาธิบดีพัก กึน-ฮเย ในการบริหารกิจการภายในที่จะเปิด "ยุคสมัยใหม่แห่งความหวังและความสุขสำหรับประชาชนทุกคน" พักยอมรับว่าเกาหลีใต้จะแตกออกจากต้นแบบแห่งการแสวงหาการพัฒนาจากที่ศูนย์กลางคือชาติ และย้ายจุดศูนย์กลางการบริหารงานของรัฐบาลจากรัฐสู่ปัจเจกบุคคล ผ่านประบวนการโครงสร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ซึ่งประชาชนจะมีความสุขจากผลการพัฒนาชาติ วิสัยทัศน์การบริหารงานของพักและหลักการพื้นฐานสำหรับการบริหารประเทศ โดยเฉพาะเค้าโครงแผนการนโยบายของเธอสำหรับเศรษฐกิจ, สังคม, สวัสดิการสังคม, การทูต และการรวมชาติ คำสำคัญในการบริหารงานในการจัดการกิจการภายในประกอบไปด้วย ประชาชน, ความสุข, ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน และหลักการ[44]

การเปลี่ยนโครงสร้างของรัฐบาล

ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่ง พักปรับเปลี่ยนโครงสร้างในทำเนียบสีนำเงินและองค์กรของรัฐบาลเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลได้ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่นำเนียบสีน้ำเงิน, กระทรวงวิทยาศาสตร์, ไอซีทีและการวางแผนแห่งอนาคตและกระทรวงมหาสมุทรและประมง ได้ถูกตั้งขึ้นมาใหม่ และมีการแก้ไขตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานความมั่นคงจะเป็นตำแหน่งที่แสดงถึง "หอคอยการควบคุม" สำหรับการทูต, ความมั่นคงและการป้องกันประเทศ และตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจสำหรับด้านศรษฐกิจ, สังคมและสวัสดิการ[45]

นโยบายด้านการต่างประเทศ

สหรัฐอเมริกา
พัก กึน-ฮเย พบประกับ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บารัก โอบามา ในการพบปะทวิภาค วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งพักเข้าพบกับจอห์น เคอรี่ และประธานาธิบดีบารัก โอบามา การเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของพัก ถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเธอภายหลังจากเข้ารับตำแหน่ง

เหมือนกับประธานาธิบดีก่อนหน้าเธอ พักพยายามรักษาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีกำลังทหาร 20,000 นาย ประจำการอยู่ภายในเกาหลีใต้ ระหว่างการเยือนสหรัฐ พักได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมร่วมกันของสภาคองเกรส ซึ่งเธอเรียกร้องให้สหรัฐสนับสนุนการต่อต้านการยั่วยุจากเกาหลีเหนือ และพักยังเรียกร้องให้มีความสัมพันธ์อันดีระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา[46]

พักประเมินสถานการณ์ความมั่นคงภายในคาบสมุทรเกาหลีและเน้นย้ำถึงความสามารถในการยับยั้งคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในประเด็นของความมั่นคง ดังนั้น พักจึงมีความเห็นว่าพันธมิตรเกาหลีใต้-อเมริกา จะเป็นพันธมิตรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเธอหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาจะพัฒนาเป็นไประดับถึงหุ้นส่วนระดับโลก[47]

พักเยือนสหรัฐอเมริกา ถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีของเธอ พักได้ไปเยือนวอชิงตัน ดี.ซี,นิวยอร์กซิตี้, และลอสแอนเจลิส ระหว่างวันที่ 5 ถึง 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556[48]

ระหว่างการพูดคุยระดับสูงสุดในเดือนพฤษภาคมที่ทำเทียบขาว ประธานาธิบดีพักและประธานาธิบดีโอบามาได้ยอมรับประกาศร่วมสำหรับพันธมิตรระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้และถกเถียงกันถึงวิถีทางพัฒนาความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้เพิ่มเติมในอนาคต และสองผู้นำยังได้พูดคุยถึงการยกระดับในการสร้างสันติภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเพิ่มความเข้มแข็งของหุ้นส่วนระหว่างโซลและวอชิงตัน[49]

สองผู้นำจากทั้งเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาตกลงที่จะยอมรับแถลงการณ์ร่วมความเข้าใจในความร่วมมือด้านพลังงานในการก่อตั้งกองทุนสำหรับการเติบโตในอนาคตและก่อตั้งคณะกรรมการความร่วมมือทางด้านนโยบายข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีโทรคมนาคม นอกจากนี้ประธานาธิบดีพักยังกระตุ้นให้ทางสหรัฐเพิ่มจำนวนโควต้าสำหรับวีซ่าสหรัฐสำหรับผู้เชี่ยวชาญของเกาหลีใต้เพื่อที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาร่วมกันทางด้านเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ[49]

ในโอกาสพิเศษนี้ "แถลงการร่วมสำหรับอนุสรณ์ครบรองหกสิปีสำหรับพันธมิตรระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีและสหรัฐอเมริกา" ได้รับการรับรองโดยจากทั้งทางเกาหลีใต้และทางสหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นเอกสารที่มีความหมายอย่างยิ่งถึงการเป็นพันธมิตรมากว่าหกทศวรรษและอธิบายอย่างละเอียดชัดแจ้งถึงทิศทางใหม่ในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่จะมีในทศวรรษต่อไป[50]

เกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือมุ่งสนใจในการยั่วยุ เช่น ฝ่าฝืนมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและการยิงขีปนาวุธระยะไกล ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในวันที่ 19 ธันวาคม ภายหลังจากพักได้รับเลือกตั้ง เกาหลีใต้ได้มีการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่สามในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 การประกาศความเป็นโมฆะของข้อตกลงที่จะไม่รุกรานกันระหว่างเกาหลีเหนือและกาหลีใต้ในวันที่ 8 มีนาคม และถอนแรงงานออกจากนิคมอุตสาหกรรมแคซ็องในวันที่ 8 เมษายน[51] พักพยายามคงไว้ซึ่งจุดยืนของเกาหลีใต้ที่จะไม่ยอมแพ้ต่อการยั่วยุและคุกคามของเกาหลีหนือ และพยายามที่จะดำเนินนโยบายเพื่อประสานความร่วมมือกันเกาหลีเหนือโดยดึงมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา, จีนและสหประชาชาติ[52]เสียงสะท้องของเธอเกี่ยวกับเกาหลีเหนือได้รับการสนับสนุนอย่างมากมายจากประชาชนชาวเกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา, จีนและรัสเซีย และดำเนินบทบาทสำคัญในการได้รับมติเป็นเอกฉันท์ในข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติที่ 2094 เกี่ยวกับเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556[53] เนื่องจากการตอบสนองของพักกับการดำเนินการของสังคมนานาชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน เกาหลีเหนือได้ยุติการยั่วยุและคุกคามเกาหลีใต้และกลับเข้าสู่การเจรจาการเปิดนิคมอุตสาหกรรมแคซ็องอีกครั้ง[54] พักกล่าวว่าสันติภาพและการรวมชาติในคาบสมุทรเกาหลีเป็นความหวังของชาวเกาหลีทั้งเจ็ดสิบล้านคน และในฐานะประธานาธิบดีเธอจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุเป้ามายดังกล่าว เช่นเดียวกับ "วัตถุประสงค์ขั้นสูงสุดของความพยายามในการรวมชาติคือการเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองเกาหลี ขยายเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน และสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้เกิดขึ้นทั้งคาบสมุทรเกาหลี[55] เธอได้กล่าวต่อว่า "ในการเปิดเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของความสงบและความหวังแห่งคาบสมุทรเกาหลี เกาหลีเหนือจะต้องยอมรับความเชื่อมั่นในการบริหารงานของเธอในการสร้างนโยบายการคิดริเริ่มก้าวแรก[56][57]

วิสัยทัศน์และความริเริ่มในนโยบายของพักในปัญหาเกี่ยวกับเกาหลีเหนือและการรวมชาติสะท้อนจากกระบวนการสร้างความเชื่อมั่นในคาบสมุทรเกาหลีของเธอ กระทรวงรวมชาติได้ออกแถลงการณ์ซึ่งแสดงถึงวิสัยทัศน์ใหม่ว่า "ตระหนักถึงการรวมเกาหลีใหม่ซึ่งรับประกันความสุขของประชาชนทุกคน" การบริหารงานในกระบวนการทั่วไปประกอบด้วยกระบวนการสร้างความเชื่อใจในความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี ริเริ่มดำเนินการในโครงการรวมชาติระดับจุลภาค เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในการรวมกันระหว่างสองเกาหลี และใช้มาตรการทางปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการเตรียมตัวสู่การรวมชาติ[58] จากนโยบายของพัก พารรวมชาติโดนสันติจะประสบความสำเร็จในสามขั้นตอน เริ่มจากเสริมสร้างความปลอยภัย, ผ่านการบูรณาการทางเศรษฐกิจ, และสุดท้ายผ่านการบูรณาการทางการเมืองของทั้งสองเกาหลี เพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนโดยการริเริ่ม การบริหารงานใหม่จะเสนอความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวเกาหลีเหนือ แลกเปลี่ยนและร่วมมือกันในทางเศรษฐกิจ, สังคมและวัฒนธรรมของทั้งสองเกาหลี และจะใช้ "โครงการวิสัยทัศน์เกาหลี" สำหรับการสถาปนาระบบเศรษกิจเดียวในคาบสมุทรเกาหลี ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจซึ่งกันและกันและความคืบหน้าในการยกเลิกการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ[59]

จีน

ในวันที่ 27-30 มิถุนายน พ.ศ. 2556 พักได้เยือนจีนพร้อมกับผู้แทนจากเกาหลีใต้ เธอได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างการพบปะ พักได้กล่าวถึงท่าทีของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่มีต่อเกาหลีเหนือ และได้ขอให้สีสนับสนุนเธอในท่าทีเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ[60]

รัสเซีย

ในวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 พักได้จัดประชุมผู้นำสูงสุดกับวลาดีมีร์ ปูติน ซึ่งปูตินได้มาถึงเกาหลีใต้คนแรกในบรรดาสี่ผู้นำมหาอำนาจประกอบไปด้วย จีน, สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ระหว่างการประชุมพักและปูตินได้พูดคุยครอบคลุมเรื่องผลประโยชน์โดยมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจเช่น โครงการร่วมมือกันทางโลจิสติกส์ (ผ่านรัสเซียและเกาหลีเหนือ) ขยายการแลกเปลี่ยนทางด้านบุคลากร และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเมืองระหว่างเกาหลีใต้และรัสเซีย พักได้เน้นย้ำถึงการสร้างผลิตผลในผลประโยชน์ร่วมกันจากนโยบายของเกาหลีใต้ที่มีต่อประเทศแถบยูเรซียและนโยบายของรัสเซียที่มีต่อเอเชียแปซิฟิก ภายหลังจากการประชุมสุดยอดประธานาธิบดีทั้งสองได้แถลงการณ์ร่วมและแถลงข่าวร่วมกัน[61][62] ในช่วงต้นพักเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ จี-20 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 ซึ่งเธอได้พบปะกับปูตินและสนทนาเกี่ยวกับเศรษฐกิจและให้รัสเซียสนันสนุนประเด็นเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นการพบปะระหว่างผู้นำสูงสุดเกาหลีใต้-รัสเซีย ครั้งแรกนั้บตั้งแต่พักเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี[63] เมื่อพักได้พบปะกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาตะวันออกไกลของรัสเซีย วิกเตอร์ อิสเชฟ ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้แทนรัสเซียซึ่งเข้าร่วมพิธีสาบานตนเพื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของพัก เธอได้กล่าวว่ารัสเซียเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญ และผลจากความสำเร็จในการปล่อยกระสวยอวกาศนาโร กลายเป็นผลลัพธ์ที่ดีร่วมกันของทั้งสองฝ่ายในการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต และจากการที่รัสเซียดำเนินการเชิงรุกในการเข้าร่วมเจรขาหกฝ่ายในประเด็นเกาหลีเหนือจะช่วยบรรเทาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้[64]

นโยบายทางเศรษฐกิจ

พักประกาศว่าจะดำเนินนโยบาย "เศรษฐกิจสร้างสรรค์" ในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของเธอในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการสร้างงาน[65]

ในเดือนเมษายน พักได้กล่าวว่า "จังหวะเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับนโยบายทางเศรษฐกิจของพวกเรา, งานและรายได้ เป็นเรื่องพื้นฐานของบุคคล ซึ่งควรจะบริหารงบประมาณเพิ่มเติมในส่วนนี้เพื่อที่จะดำเนินการให้ทันตามเวลา"[66]

ในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557 พักลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเกาหลีใต้และออสเตรเลีย โดยทางฝั่งออสเตรเลียมีนายกรัฐมนตรีโทนี แอบบ็อตต์ ลงนาม[67]

นโยบายทางด้านสังคม

พักได้เสนอหัวข้อระดับชาติหัวข้อหนึ่งที่จะดำเนินการกำจัดอย่างสิ้นซากในเรื่อง "สี่ความชั่วร้ายหลักของสังคม" (4대 사회악: "ซาแด ซาเฮวอัก") ได้แก่ ความรุนแรงทางเพศ, ความรุนแรงภายในครอบครัว, ความรุนแรงภายในโรงเรียน และความไม่ปลอดภัยทางอาหาร จากสถิติแสดงให้เห็นว่าความรุนแรงทางเพศและความรุนแรงภายในครอบครัวมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีหลังๆ แม้ปัญหาอีกสองอย่างจะไม่ถูกอ้างถึงในสถิติ แต่ปัญหาความรุนแรงภายในโรงเรียนและปัญหาความปลอดภัยทางด้านอาหารก็เป็นปัญหาที่สาธารณชนให้ความสนใจ[68][69] และเธอยังดำเนินการเปิดคณะกรรมการปรองดองแห่งชาติ ในวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาประธานาธิบดีในกระบวนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งหลายอย่างในสังคมเกาหลีใต้ และยังมีหน้าที่ก่อตั้งตั้งวัฒนธรรมของการอยู่ร่วมกันและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ฮัน ควัง-อก อดีตที่ปรึกษาพรรครวมประชาธิปไตยมีรายชื่อเป็นหัวหน้าคณะกรรมการชุดนี้[70]

ระดับชาติ

ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ประธานาธิบดีพัก กึน-ฮเย ได้เข้าร่วมรำลึกการสังหารหมู่ที่ควังจู ครบรอบ 33 ปี และได้แสดงความเสียใจต่อญาติของเหยื่อที่ถูกสังหารหมู่[71]

ปีที่สอง (กุมภาพันธ์ 2557– กุมภาพันธ์ 2558)

พัก กึน-ฮเย และ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ 25 เมษายน 2557

นโยบายต่างประเทศ

เกาหลีเหนือ

พักเสนอเรื่องบันไดสามขั้นในเรื่องเกาหลีเหนือเพื่อที่จะช่วยเดินไปข้างหน้าในเรื่องการรวมชาติ ในวันที่ 28 มีนาคม 2557 ที่เดรสเดน ระหว่างการเยือนเยอรมนี[72] ประธานาธิปดีพักกล่าวว่าความเจ็บปวดรวดร้าวจากการแยกกันระหว่างสองเกาหลีผ่านจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง เธอเองยังได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการช่วยเหลือทั้งสองเกาหลีในการรวมชาติโดยการ "เริ่มต้นในการจัดการแม่น้ำและป่าไม้ร่วมกันในพื้นที่ของสองเกาหลี เราจะต้องขยายขอบเขตการร่วมมือกันในโครงการต่างๆ จากมุมมองดังกล่าว ฉันหวังว่าเกาหลีเหนือจะเข้าร่วมการประชุมของสหประชาชาติ อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งจะจัดขึ้นที่พย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนตุลาคนที่จะถึงนี้""[73] ประธานาธิปดีพักได้เตือนเกาหลีเหนือว่าการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ จะนำไปสู่ ผลกระทบแบบโดมิโน ซึ่งจะทำให้ประเทศเพื่อนบ้านของเกาหลีเหนือจะต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ป้องกันตัวเอง เธอกล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ เจอรัล เบอร์เกอร์ บรรณาธิการของเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล ที่โซล เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม[74]

การปรับโครงสร้างของรัฐบาล

ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 พักประกาศว่าเกาหลีใต้จะยุติหน่วยยามฝั่ง หลังจากความล้มเหลวในกรณีเหตุเอ็มวี เซว็อลจม[75] โดยข้อมูลจากพัก "บทบาททางด้านการสืบสวนและข้อมูลจะถูกโอนไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ ส่วนด้านภารกิจด้านการช่วยเหลือและการกอบกู้ซากเรือ และความมั่นของทางด้านชายฝั่งทะเล จะถูกโอนไปให้แผนกด้านความปลอดภัยระดับชาติ ซึ่งเพื่อไม่ให้สับสนกับกระทรวงความปลอดภัย และการบริการสาธารณะ จึงจะได้มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา[76] ในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 หน่วยยามฝั่งเกาหลีและสำนักจัดการภาวะฉุกเฉินระดับชาติ ต้องไปขึ้นตรงต่อการควบคุมของกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะและความมั่นคง ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นในวันนั้น[77]

ปีที่สาม (กุมภาพันธ์ 2558 – กุมภาพันธ์ 2559)

นโยบายต่างประเทศ

พัก กึน-ฮเย กับประธานาธิบดี จิลมา รูเซฟ แห่งบราซิล
จีน

ในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 พักได้เสนอให้ผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ร่วมมือกับเกาหลีใต้และธนาคารที่มาจากดำริของรัฐบาลจีนคือ ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย[78] ภายหลังจากเกาหลีใต้ได้สมัครอย่างเป็นทางการในการเข้าร่วมธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย ในปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558[79]

ปีที่สี่และปีที่ห้า (กุมภาพันธ์ 2559 – มีนาคม 2560)

นโยบายต่างประเทศ

อิหร่าน
พัก กึน-ฮเย ได้รับการต้อนรับจาก นายโมฮัมหมัด เรซา เนมัทซาเด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมที่ สนามบินเมห์ราบัด

ในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 พักเป็นประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ที่เยือนอิหร่าน[80][81]เธอเป็นหัวหน้าของคณะผู้แทนจำนวน 236 คน ที่ประกอบไปด้วยนักธุรกิจและนักลงทุน ในช่วงระหว่างการเยือนเตหะราน 3 วัน เพื่อหารือเกี่ยวกับการค้าทวิภาคี และประเด็นอื่นที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน[82] ต่อจากนั้นเธอได้เข้าพบประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี และได้พูดคุยกับผู้นำสูงสุดอะลี คอเมเนอี[83] ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงพื้นฐานทั้ง 19 ฉบับ และได้ขยายความร่วมมือกันในหลายๆส่วน[84] ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีรูฮานี ได้เน้นย้ำว่าอิหร่านและเกาหลีใต้จะต้องส่งเสริมและผลักดันมูลค่าทางการค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น18 ล้านเหรียญสหรัฐ

การเลือกตั้งทั่วไปปี 2559

พักเสียหายอย่างมากจากการพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2559 ที่เลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559 ซึ่งพรรคแซนูรีสูญเสียที่นั่งสำคัญ และสูญเสียความเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา[85] พักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในครั้งนี้และในกระบวนการคัดเลือกตัวแทนของพรรค[86][87] และสมาชิกพรรคแซนูรีคนอื่นกล่าวหาว่ากลึ่มผู้สนับสนุนพักมีส่วนทำให้พรรคพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้[88][89][90] โดยสมาชิกที่จงรักพักดีกับพักมีสภาพย่ำแย่จากการเลือกตั้งในครั้งนี้[91] ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกมองเป็นอุปสรรคในการผ่านร่างข้อเสนอการปฏิรูปทางเศรษฐกิจของพัก,[92] ผลจากการนี้ทำให้หนังสือพิมพ์หัวอนุรักษ์นิยมโชซ็อนอิลโบ ตีพิมพ์บทความถึงพักว่า "ช่วงสภาวะเป็ดง่อยของรัฐบาลพักเริ่มต้นเร็วกว่ารัฐบาลอื่นๆในอดีต"[93]

ความนิยม

คะแนนความนิยมของประธานาธิบดี พัก กึน-ฮเยคะแนนความนิยมของประธานาธิบดี พัก กึน-ฮเย แบ่งตามช่วงอายุ

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 ประชาชนสนับสนุนประธานาธิบดีพัก เกี่ยวกับวิธีการดำเนินการต่างๆ โดยมีคะแนนความนิยมในช่วงดังกล่าวสูงถึง 63 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากกว่าคะแนนเสียง 53 เปอร์เซ้นต์ที่เธอได้รับมาตอนเลือกตั้งประธานาธิบดี[94] โดยจากการวิเคราะห์ของสื่อว่าที่เธอได้รับคะแนนนิยมมากขนาดนี้เนื่องมาจากนโยบายเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ และผลลัพธ์อันเป็นรูปธรรมจากการเยือนสหรัฐอเมริกาและจีน และการวางตัวเป็นกลางถอยห่างจากความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ[95]

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2558 คะแนนความนิยมของพักเหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากกรณีเหตุเอ็มวี เซว็อลจม และความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ[96] ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 คะแนนความนิยมของพักเพิ่มขึ้นไป 54 เปอร์เซ็นต์จากวิธีการทางการทูตทำให้ลดความขัดแย้งทางการทหารกับเกาหลีเหนือ[97] แต่ผลจากการพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2559 คะแนนความนิยมของเธอก็ลดมาอยู่ที่ 31.5 เปอร์เซ็นต์ ลดลงถึง 8.1 เปอร์เซ็นต์จากหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง[98]

ในวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 คะแนนนิยมของพักเหลือเพียง 4-5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จากกรณีถูกสอบสวนและเปิดเผยความอื้อฉาวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับ ชเว ซุน-ซิล ซึ่งนำไปสู่เหตุอื้อฉาวทางการเมืองเกาหลีใต้ ปี 2559[99][100][101]

แหล่งที่มา

WikiPedia: พัก_กึน-ฮเย http://www.theaustralian.com.au/news/world/conserv... http://www.abc.net.au/news/2014-04-08/australia-si... http://www.amazon.com/Legacy-Ashes-The-History-CIA... http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/748643 http://www.bbc.com/news/world-asia-34876444 http://biz.chosun.com/site/data/html_dir/2012/04/0... http://english.chosun.com/site/data/html_dir/2006/... http://www.cnn.com/2014/05/18/world/asia/south-kor... http://news.donga.com/3/all/20120710/47651073/1 http://news.donga.com/3/all/20120716/47788962/1